Easy Binary Options Trading Strategies for Beginners 2

กลยุทธ์การซื้อขายตัวเลือกไบนารีอย่างง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น

โบรกเกอร์ เสนอ อุปกรณ์ ซื้อขายทันที / ตรวจสอบ
1st
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
2nd
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
3rd
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
4th
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้

กลยุทธ์การซื้อขายสำหรับไบนารี่ออปชั่น: “แนวรับและแนวต้าน”

ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายไบนารี่ออปชั่นที่ประสบความสำเร็จ ระดับเหล่านี้โดยพื้นฐานแล้วคือระดับราคาที่สินทรัพย์หนึ่งๆ มักจะพบแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งหมายความว่าราคามีแนวโน้มที่จะดีดตัวออกจากระดับเหล่านี้ในอนาคต ผู้ซื้อขายสามารถใช้ระดับเหล่านี้เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลว่าเมื่อใดควรเข้าหรือออกจากการซื้อขาย

ระดับแนวรับคือระดับที่ราคาของสินทรัพย์มักจะพบแนวรับและดีดตัวขึ้นสูง ในขณะที่ระดับแนวต้านคือระดับที่ราคามักจะพบแนวต้านและดีดตัวลงต่ำ โดยการระบุระดับเหล่านี้บนแผนภูมิราคา ผู้ซื้อขายสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นและปรับกลยุทธ์การซื้อขายตามนั้นได้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ซื้อขายเห็นว่าสินทรัพย์เด้งตัวออกจากระดับแนวรับซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาอาจพิจารณาเข้าสู่ตำแหน่งซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับนั้น โดยคาดการณ์ว่าราคาจะดีดตัวขึ้นสูง ในทางกลับกัน หากเทรดเดอร์เห็นว่าสินทรัพย์ถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ระดับแนวต้าน พวกเขาอาจพิจารณาเข้าสู่ตำแหน่งขายเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับนั้น โดยคาดการณ์ว่าราคาจะดีดตัวต่ำลง

ระดับแนวรับและแนวต้านยังสามารถใช้เพื่อตั้งคำสั่งตัดขาดทุนเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์เข้าสู่ตำแหน่งซื้อที่ระดับแนวรับ พวกเขาอาจตั้งคำสั่งตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าระดับนั้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันการตกของราคากะทันหัน ในทำนองเดียวกัน หากเทรดเดอร์เข้าสู่ตำแหน่งขายที่ระดับแนวต้าน พวกเขาอาจตั้งคำสั่งตัดขาดทุนไว้เหนือระดับนั้นเล็กน้อยเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหากราคาทะลุแนวต้าน

โดยรวมแล้ว การรวมระดับแนวรับและแนวต้านเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายออปชั่นไบนารีจะช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ โดยการทำความเข้าใจว่าระดับเหล่านี้ทำงานอย่างไรและใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อขาย เทรดเดอร์จะสามารถเพิ่มผลกำไรและลดความเสี่ยงในโลกของการซื้อขายออปชั่นไบนารีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

शुरुआती लोगों के लिए आसान बाइनरी विकल्प ट्रेडिंग रणनीतियाँ 1

กลยุทธ์การซื้อขายออปชั่นไบนารี: “Fibonacci Retracement”

กลยุทธ์การซื้อขายออปชั่นไบนารีที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่งคือ Fibonacci Retracement กลยุทธ์นี้ใช้ลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นรูปแบบทางคณิตศาสตร์ที่พบในธรรมชาติและมักใช้ในการซื้อขายเพื่อคาดการณ์ระดับราคาที่อาจเกิดขึ้น ระดับ Fibonacci Retracement ใช้เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มตลาด เทรดเดอร์สามารถใช้ระดับเหล่านี้เพื่อกำหนดจุดเข้าและจุดออกสำหรับการซื้อขาย ระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ ได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 100% เมื่อตลาดมีแนวโน้ม ผู้ซื้อขายสามารถวาดระดับการย้อนกลับของ Fibonacci จากจุดสูงสุดของการแกว่งไปยังจุดต่ำสุดของการแกว่ง (ในแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดต่ำสุดของการแกว่งไปยังจุดสูงสุดของการแกว่ง (ในแนวโน้มขาลง) ระดับเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการกลับตัวหรือดำเนินต่อไปของราคา ผู้ซื้อขายสามารถใช้ระดับเหล่านี้เป็นแนวทางในการวางคำสั่งซื้อขาย โดยตั้งคำสั่งตัดขาดทุนเหนือระดับ Fibonacci เพียงเล็กน้อยเพื่อปกป้องเงินทุนของตน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าระดับการย้อนกลับของ Fibonacci นั้นไม่ใช่ระดับที่ไร้ที่ติ และผู้ซื้อขายควรใช้ระดับนี้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝนการจัดการความเสี่ยงและวินัยอย่างเหมาะสมเมื่อใช้กลยุทธ์การย้อนกลับของ Fibonacci เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียครั้งใหญ่ โดยรวมแล้วกลยุทธ์การย้อนกลับของฟีโบนัชชีสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ออปชั่นไบนารีที่ต้องการระบุระดับราคาที่เป็นไปได้และตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูล

วิธีเทรดออปชั่นไบนารี: “การดีดตัวกลับของแนวโน้ม”

การเทรดออปชั่นไบนารีเป็นวิธีที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ในการทำกำไรโดยทำนายทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ภายในกรอบเวลาที่กำหนด วิธีหนึ่งที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จคือกลยุทธ์ “การดีดตัวกลับของแนวโน้ม” กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้มในตลาดและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวราคาเล็กน้อยที่เกิดขึ้นภายในแนวโน้มนั้น

ในการใช้กลยุทธ์การดีดตัวกลับของแนวโน้ม เทรดเดอร์จำเป็นต้องระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งในตลาดก่อน ซึ่งสามารถทำได้โดยการวิเคราะห์แผนภูมิราคาและมองหาการเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างสม่ำเสมอในราคาสินทรัพย์ เมื่อระบุแนวโน้มได้แล้ว เทรดเดอร์สามารถมองหาโอกาสในการเข้าสู่ตลาดเมื่อราคาดีดตัวออกจากระดับแนวรับหรือแนวต้านภายในแนวโน้ม

เมื่อราคาดีดตัวออกจากระดับแนวรับในแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่ออปชั่น “ซื้อ” โดยคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อราคาดีดตัวออกจากระดับแนวต้านในแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่ออปชั่น “ขาย” โดยคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงลดลง

ข้อได้เปรียบหลักประการหนึ่งของกลยุทธ์การดีดตัวกลับของแนวโน้มคือช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นภายในแนวโน้มที่ใหญ่กว่าได้การเข้าทำการซื้อขายที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านสำคัญจะทำให้ผู้ซื้อขายมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นและอาจทำกำไรได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อขายควรใช้ความระมัดระวังเมื่อใช้กลยุทธ์ Trend Bounce เช่นเดียวกับวิธีการซื้อขายอื่นๆ มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และอาจเกิดการสูญเสียได้หากตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ผู้ซื้อขายควรใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมและซื้อขายด้วยเงินที่สามารถสูญเสียได้เท่านั้น

สรุปได้ว่ากลยุทธ์ Trend Bounce เป็นวิธีการที่นิยมใช้โดยผู้ซื้อขายออปชั่นไบนารีเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นภายในแนวโน้มที่ใหญ่กว่า โดยการระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งและเข้าทำการซื้อขายที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ ผู้ซื้อขายสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรใช้ความระมัดระวังและใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อลดการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด

शुरुआती लोगों के लिए आसान बाइनरी विकल्प ट्रेडिंग रणनीतियाँ 2

กลยุทธ์ไบนารี่ออปชั่น: “การตัดกันของเส้น EMA กับ Heiken Ashi”

การเทรดไบนารี่ออปชั่นอาจเป็นกิจกรรมที่ซับซ้อนและเสี่ยง แต่ด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง เทรดเดอร์สามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้ กลยุทธ์ยอดนิยมอย่างหนึ่งที่เทรดเดอร์หลายคนใช้คือการตัดกันของเส้น EMA กับ Heiken Ashi ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) เป็นตัวบ่งชี้การติดตามแนวโน้มที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุทิศทางของแนวโน้มตลาดได้ โดยการใช้ EMA สองค่าที่มีช่วงเวลาต่างกัน เทรดเดอร์สามารถมองหาการตัดกันเพื่อส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้ม เมื่อเส้น EMA ที่สั้นกว่าตัดกันเหนือเส้น EMA ที่ยาวกว่า แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่การตัดกันในทิศทางตรงข้ามแสดงว่ามีแนวโน้มขาลง

ร่วมกับการตัดกันของเส้น EMA เทรดเดอร์มักใช้แท่งเทียน Heiken Ashi เพื่อยืนยันการซื้อขายของตน แท่งเทียน Heiken Ashi เป็นกราฟแท่งเทียนประเภทหนึ่งที่ช่วยปรับการเคลื่อนไหวของราคาและช่วยให้ผู้ซื้อขายระบุแนวโน้มได้ง่ายขึ้น เมื่อแท่งเทียน Heiken Ashi เป็นสีเขียว แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่แท่งเทียนสีแดงแสดงว่ามีแนวโน้มขาลง การรวมค่า EMA ที่ตัดกับ Heiken Ashi เข้าด้วยกันจะช่วยให้ผู้ซื้อขายมีสัญญาณที่เชื่อถือได้มากขึ้นในการเข้าหรือออกจากการซื้อขาย

ในการใช้กลยุทธ์นี้ ผู้ซื้อขายควรตั้งค่ากราฟด้วยค่า EMA และแท่งเทียน Heiken Ashi ที่เหมาะสมก่อน จากนั้นควรรอให้ค่า EMA ตัดกันและยืนยันสัญญาณด้วยสีของแท่งเทียน Heiken Ashi เมื่อได้สัญญาณที่ชัดเจนแล้ว ผู้ซื้อขายสามารถเข้าทำการซื้อขายตามทิศทางของแนวโน้มได้ การกำหนดคำสั่งตัดขาดทุนเพื่อจำกัดการขาดทุนและเป้าหมายการทำกำไรเพื่อล็อกกำไรนั้นมีความสำคัญ

โดยรวมแล้ว ค่า EMA ที่ตัดกับกลยุทธ์ Heiken Ashi นั้นสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ซื้อขายออปชั่นไบนารีที่ต้องการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มในตลาด การรวมตัวบ่งชี้ทั้งสองเข้าด้วยกันจะทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสประสบความสำเร็จในการซื้อขายและเพิ่มผลกำไรให้สูงสุดได้ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่นๆ เทรดเดอร์ควรฝึกฝนการจัดการความเสี่ยงและวินัยอย่างเหมาะสมเพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *