ราคาอาหารของสหราชอาณาจักรอยู่ในอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่าหกปี ตามตัวเลขที่เปิดเผยโดย British Retail Consortium (BRC) ซึ่งเป็นองค์กรการค้าสำหรับผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักร ราคาได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากสภาพอากาศที่รุนแรงในปีที่แล้วและการขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างรุนแรง
อุปทานกระทบสภาพอากาศ
หลังฤดูร้อน อุปทานลดน้อยลงกว่าเดิม เมื่อเกษตรกรปลูกพืชจำนวนน้อยลงเนื่องจากสภาพอากาศ ทั้งร้อนและเย็น ราคาจึงถูกผลักดันโดยอุปสงค์ที่สูงขึ้นแต่อุปทานที่น้อยลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นไปด้วย
BRC ยังเสนอว่าราคาทั่วโลกสำหรับส่วนผสมทั่วไป เช่น ซีเรียลและข้าวสาลีได้เพิ่มราคาของสินค้าในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะขนมปัง
สถิติอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนเมษายนแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นจาก 1.6% ที่รายงานในเดือนกุมภาพันธ์ และอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารในร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นประมาณ 0.2% ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่มีนัยสำคัญ และ BRC ได้เตือนว่าอาจมีผลร้ายแรงตามมาหากตัวเลขเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นในขณะที่เราเข้าสู่ฤดูร้อน
Brexit ถูกตำหนิอีกครั้ง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BRC ยังได้ยื่นเรื่องที่น่าตำหนิต่อรัฐสภา โดยเสนอว่าราคาอาหารจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูงลิ่วนี้ หากอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง .
เธอเตือนว่า ‘
ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่ออัตราเงินเฟ้อด้านอาหารยังคงเป็น […] Brexit ที่ไม่มีข้อตกลง
‘ และเรียกร้องให้รัฐสภาทำงานร่วมกันและสร้างการประนีประนอมเสียงข้างมากโดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อให้แน่ใจว่า ว่าชาวอังกฤษจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นักวิจารณ์คนอื่นๆ เสนอว่า ตัวเลขเหล่านี้เน้นย้ำถึงการต่อสู้ของผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักรที่เริ่มเห็นยอดขายที่ช้าลงตั้งแต่ต้นปีเท่านั้น