ผลกระทบของการเป็นนายกรัฐมนตรีของจอห์นสันจะส่งผลต่อตลาดในสหราชอาณาจักรอย่างไร?

โบรกเกอร์ เสนอ อุปกรณ์ ซื้อขายทันที / ตรวจสอบ
1st
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
2nd
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
3rd
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้
4th
สินทรัพย์: 300+
นาที. ซื้อขาย: $1
การจ่ายเงิน 3 วัน
* อัตราผลตอบแทน: 100%
ซื้อขายตอนนี้

เมื่อบอริส จอห์นสันเข้ากุมบังเหียนในฐานะนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือเมื่อเร็วๆ นี้ มีคำถามมากมายที่ถูกถามเกี่ยวกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีของเขาจะมีความหมายต่อประเทศ อากาศ.

ตลาดหุ้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?

นักวิจารณ์หลายคนชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าความเป็นผู้นำของจอห์นสันมีแนวโน้มที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นในระยะยาวของ FTSE100 อย่างน้อยก็จนกว่า Brexit จะเกิดขึ้นในที่สุด

การลดลงอย่างมากของอัตราภาษีนิติบุคคล

ตามที่สัญญาไว้

ในการหาเสียงที่นำไปสู่การเลือกตั้งผู้นำแบบอนุรักษ์นิยม ยังช่วยให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยอิสระในการลงทุนในระยะยาว ทำให้ธุรกิจต่างๆ ให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก

ยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วประเทศ ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเป็นระยะ แม้ว่าความเชื่อมั่นนี้อาจอยู่ได้ไม่นาน แต่สัญญาว่าจะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ต.ค. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม วันที่นำไปสู่การออกจะเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าประทับใจ

เตรียมพร้อมสำหรับ Brexit ที่ ‘ไม่มีข้อตกลง’

ผลการเจรจา Brexit เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดามาเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบอริส จอห์นสันตั้งใจที่จะทำตามคำสัญญาที่จะจากไปในวันฮัลโลวีน ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดที่นักวิเคราะห์เสนอในขั้นตอนนี้คือสำหรับสถานการณ์ ‘ไม่มีข้อตกลง’ เนื่องจากสหภาพยุโรปได้กล่าวซ้ำ ๆ ว่าพวกเขาจะ

ไม่ เจรจาต่อรอง

ต่อไป

หากสิ่งนี้เกิดขึ้น เราสามารถคาดหวังได้ว่าค่าเงินปอนด์จะอ่อนค่าลงอย่างมาก อย่างน้อยก็ในช่วงแรก โดยตลาดจะปรับตัวตามเนื่องจากการค้าสินค้าและบริการข้ามพรมแดนจะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว ในช่วงสามเดือนข้างหน้า นักลงทุนน่าจะเห็นโอกาสสำคัญ เนื่องจากการสนับสนุนธุรกิจจะถูกนำขึ้นสู่แนวหน้าตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อลดความเสียหายใด ๆ ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ ‘ไม่มีข้อตกลง’

นั่นหมายความว่าจะมีข่าวเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนอย่างแน่นอน และการจับตาดูความเสี่ยงและศักยภาพของตลาดอย่างใกล้ชิดจะเป็นกุญแจสำคัญระหว่างวันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *